วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 10

http://www.facebookgoo.com/2010/06/16/facebook-profile-page-group-comparison/

Facebook Profile, Page และ Group ต่างกันยังไง?
ช่วงหลังๆ นี้ เราเริ่มจะได้การใช้ facebook สำหรับธุรกิจและองค์กร รวมถึงการสร้าง Page เพืื่อจุดประสงค์ต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปจากการใช้งานทั่วไปอยู่บ้าง ทาง facebookgoo ก็เลยขอมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์บทความที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งาน facebook ในลักษณะนี้บ้างครับ
เหตุผลที่อยากจะเขียนบทความเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง facebook profile, page และ group นั้น ก็เนื่องมาจากได้เห็นการใช้งานของทั้งส่วนบุคคล, กลุ่มคน, องค์กร และธุรกิจ ที่บางครั้งมีความตั้งใจอยากจะสร้างตัวตนขึ้นมาใน facebook แต่ด้วยความที่ยังไม่เข้าใจภาพรวมและข้อจำกัดของการใช้งานในแต่ละรูปแบบ ทำให้ใช้งานไปซักพักก็ต้องเผชิญกับข้อจำกัดต่างๆ เป็นการเสียเวลาเสียโอกาสกันไปครับ
กรณีที่เห็นผิดพลาดกันบ่อยๆ เช่นเป็นบริษัทใหญ่โต แต่ไปใช้ Profile ธรรมดาที่จำกัดเพื่อนอยู่ที่ 5,000 คน ทำให้ในที่สุดต้องกลับมานับหนึ่งสร้าง page ใหม่ เพื่อจะหนีข้อจำกัดนี้ หรือบางคนต้องการจะสร้างกลุ่มที่เป็นกลุ่มปิดรับเฉพาะคนที่กำหนดไว้ แต่ดันไปสร้างเป็น Page ที่ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธคนที่อยากเข้าร่วม
ความผิดพลาดทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นครับ ถ้าเรารู้จักความแตกต่างของ profile, page และ group ถึงข้อดี ข้อด้อย และข้อจำกัดของแต่ละรูปแบบ ก่อนที่จะตัดสินใจว่ารูปแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุดครับ

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 9


เมืื่อประมาณวันจันทร์ที่ผ่านมา facebook lite ก็ได้ทำการเปิดตัวต่อสาธารณะไปเรียบร้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นฉบับทดลองอยู่ก็ตาม จากที่ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นดู ก็รู้สึกประทับใจไม่น้อยทีเดียวครับ ก็เลยอยากจะมารีวิวสั้นๆ ให้เพื่อนๆ ฟังกันที่นี่ซะหน่อย แน่นอนว่าฟังก์ชั่นต่างๆ นั้นคงยังไม่สมบูรณ์เหมือน facebook ตัวเต็มซะทั้งหมด แต่ก็มาทำความรู้จักน้องเล็กคนนี้กันซักหน่อยดีกว่า

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 8

http://http://variety.eduzones.com/facebook/tag

ขั้นตอนการสมัคร facebook
บทความในวันนี้จะเป็นเรื่องของมือใหม่จริงๆ คือคนที่ไม่เคยมีเฟซบุ๊ค และไม่เคยเล่นพวกเว็บ social network มาก่อนเลย สำหรับคนที่เคยเล่นเว็บอื่นมาไม่ว่าจะเป็น hi5 หรือ myspace สิ่งที่จะพูดในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องที่คุณคุ้นเคยดีอยู่แล้วก็ได้ แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่จริงๆ ละก็ ตามผมมาเลยครับ
ก่อนอื่นต้องทำความ เข้าใจกับคำว่า social network กันก่อนนะครับ จริงๆ เรื่องนี้ก็ยาวขนาดที่ว่ายกมาเขียนได้เป็นอีกหัวข้อนึงไปเลย แต่ถ้าพูดให้สั้นๆ ก็คือเป็นเว็บไซท์ที่คุณสามารถสร้างหน้าโปรไฟล์ หรือข้อมูลของคุณเอง และนำไปเชื่อมโยงกับหน้าโปรไฟล์ของคนอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถมีปฎิสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นได้ ส่วนจะทำอะไรได้บ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับบริการของเว็บแต่ละห้อง เช่นเข้าไปดูรูปของเพื่อน เขียนไดอารี่ให้คนอื่นเข้ามาอ่าน ส่งข้อความส่วนตัว เขียนข้อความลงบนพื้นที่ในหน้าของเพื่อน ฟังเพลง ส่งเพลงให้กัน ท้าดวลเกมส์ ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถส่งข้อความพูดคุยกับเพื่อนตัวต่อตัว หรือจะส่งข้อความหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ในครั้งเดียวก็ทำได้ทั้งนั้น โดยจุดเด่นของการสื่อสารผ่านเว็บพวก social network นี้คือเราไม่จำเป็นต้องมานั่งรอเพื่อนของเราออนไลน์พร้อมกันเพื่อจะพูดคุย เหมือนอย่างโปรแกรมพวก msn
อยากลองใช้ดูแล้วใช่มั้ย เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 7

http://en.wikipedia.org/wiki/Facebook

Facebook is a social networking website launched in February 2004 that is operated and privately owned by Facebook, Inc.,[1] with more than 500 million[5] active users in July 2010.[6][N 1] Users can add people as friends and send them messages, and update their personal profiles to notify friends about themselves. Additionally, users can join networks organized by workplace, school, or college. The website's name stems from the colloquial name of books given to students at the start of the academic year by university administrations in the US with the intention of helping students to get to know each other better. Facebook allows anyone who declares themselves to be aged 13 or older to become a member of the website.
Facebook was founded by
Mark Zuckerberg with his college roommates and fellow computer science students Eduardo Saverin, Dustin Moskovitz and Chris Hughes.[7] The website's membership was initially limited by the founders to Harvard students, but was expanded to other colleges in the Boston area, the Ivy League, and Stanford University. It gradually added support for students at various other universities before opening to high school students, and, finally, to anyone aged 13 and over. The original concept for Facebook was borrowed from a product produced by Zuckerberg's prep school Phillips Exeter Academy, which for decades published and distributed a printed manual of all students and faculty, unofficially called the "face book".
Facebook has met with some
controversy. It has been blocked intermittently in several countries including Pakistan,[8] Syria,[9] People's Republic of China,[10] Vietnam,[11] and Iran.[12] It has also been banned at many places of work to discourage employees from wasting time using the service.[13] Privacy has also been an issue, and it has been compromised several times. Facebook settled a lawsuit regarding claims over source code and intellectual property.[14] The site has also been involved in controversy over the sale of fans and friends.[15]
A January 2009 Compete.com study ranked Facebook as the most used social network by worldwide monthly active users, followed by MySpace.[16] Entertainment Weekly put it on its end-of-the-decade 'best-of' list, saying, "How on earth did we stalk our exes, remember our co-workers' birthdays, bug our friends, and play a rousing game of Scrabulous before Facebook?"[

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 6

http://www.facebookforfun.com/

Social Game ของเล่นบน Facebook
ทุกวันนี้เรียกได้ว่า Internet Users จะต้องเข้าเว็บสังคมออนไลน์ (Social Network) เป็นประจำ ชนิดไม่ต่างจากการเช็ค Email ในแต่ละวัน
Facebook, Hi5 กำลังเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเน็ตชาวไทยและต่างชาติ ที่เรียกว่าใครยังไม่มี account เปิดไว้กับสอง Social Network นี้ ‘ เ ป็ น อั น ว่ า เ ช ย ’
นอกจากการแชร์ข้อมูล ภาพ วิดีโอ และพูดคุย หยอกล้อ ทักทายกันบน Social Network แล้ว ปัจจุบันยังมีสิ่งที่กำลังเป็นของเล่นฮอตฮิตในกลุ่มสังคมออนไลน์อีก ด้วย นั่นคือการเล่นเกมผ่าน Social Network ที่เรียกว่า ‘Social Game’
อะไรคือ Social Games
Social Games เป็นเกมที่ผสมผสานระกว่างเกมออนไลน์และสังคมในอินเทอร์เน็ตเข้าด้วยกัน นอกจากคุณจะเล่นเกมให้ได้คะแนนสูงๆ แล้ว จะต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ของคุณด้วย ถือเป็นเงื่อนไขในเกมเลยทีเดียว และเกมที่คนไทยชอบเล่นมักเป็นเกมที่มีกราฟฟิกสวยงาม วิธีการเล่นไม่ซับซ้อน และที่สำคัญต้องไม่เสียเงิน
เกมคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั้น มักเน้นที่การเล่นเกมคนเดียวบน console ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือมือถือ แต่เกมออนไลน์ที่จะได้เล่นกับเพื่อนๆ มักต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเล่น เช่น บัตรเติมเวลา หรือบัตรเติมเงินในเกม แล้วค่อยหาเพื่อนที่ชอบเล่นเกมนั้นๆ เหมือนกันหลังจากเข้าไปเล่น แต่เกมแบบ Social จะแตกต่างตรงที่เราสามารถชวนครอบครัว ชวนเพื่อนหรือคนรู้จัก มาเล่นเกมเดียวกับเราได้โดยใช้ Social Network เป็นสื่อกลาง