วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่5

http://th.wikipedia.org

เฟซบุ๊ก (อังกฤษ: Facebook) เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมสำหรับติดต่อแลกข้อมูลข่าวสาร เปิดใช้งานเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ในช่วงแรกนั้นเฟซบุ๊กเปิดให้ใช้งานเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ซึ่งต่อมาได้ขยายตัวออกไปสำหรับมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา และตั้งแต่ 11 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้ขยายมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปทุกคนเหมือนในปัจจุบัน
เว็บไซต์เฟซบุ๊กก่อตั้งที่เมือง
เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ แพโลแอลโท รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ลงทะเบียนกว่า 500 ล้านชื่อ และเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 รองจากกูเกิล[1]
ชื่อเฟซบุ๊กนี้มาจากชื่อเรียก "เฟซบุ๊ก" ที่มักจะเป็นหนังสือแจกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยในช่วงเริ่มเรียนปีแรก ซึ่งมีภาพและชื่อของเพื่อนที่เรียนด้วยกันเพื่อไว้สำหรับจดจำชื่อคนอื่น
เดวิด ฟินเชอร์ ได้นำเนื้อหาในหนังสืิอที่เขียนถึงประวัติการก่อตั้งเฟซบุ๊ก สร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ
เดอะ โซเชียล เน็ตเวิร์ก นำแสดงโดยเจสซี ไอเซนเบิร์ก แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ และจัสติน ทิมเบอร์เลค โดยเควิน สเปซีย์ เป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ กำหนดฉายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 4


เฟซบุ๊คเป็นเสมือนสังคมๆหนึ่งซึ่งอยู่ในลักษณะของสังคมออนไลน์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า Social Network ซึ่งสังคมออนไลน์นี้เป็นสังคมที่รวมกลุ่มคนที่มีความชอบ ความสนใจในสิ่งเดียวกันเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งกลุ่มที่อยู่ในเว็บไซต์เดียวกัน หรืออยู่คนละเว็บไซต์.. แต่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ สามารถสื่อสาร ส่งต่อ หรือแบ่งปันให้กันได้ จากจุดเริ่มต้นที่คนหนึ่งคนส่งหาเพื่อนอีกคน แล้วมีการส่งต่อกระจายกันออกไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นเครือข่ายสังคมขนาดใหญ่ โดยที่คนในสังคมจะคอยอัพเดทแบ่งปันข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน จนทำให้สังคมออนไลน์เป็นเครือข่ายที่กว้างขวาง และเข้มแข็งมาก และเฟซบุ๊คก็เป็นสังคมออนไลน์แห่งหนึ่งที่มีคนใช้งานมากที่สุดเว็บไซต์หนึ่ง ของโลก ในการสมัครเข้าใช้งานก็สามารถทำได้อย่างง่าย เพราะใครๆก็สามารถจะลงทะเบียนเข้าใช้งานเฟซบุ๊คและใช้งานโต้ตอบกับกลุ่มคนใน สังคมออนไลน์ที่พวกเขารู้จักได้ ภายในเว็บไซต์เฟซบุ๊ค ได้ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน

อ้างอิงhttp://www.iqraforum.com/forum/index.php?topic=3043.0

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 3

เราจะป้องกันไม่ให้ account ของเราถูกระงับได้ยังไง? เราต้องมาดูเหตุผลหลักๆ ว่า facebook นั้นส่วนใหญ่จะระงับ account ที่เข้าข่ายต่อไปนี้ครับ
1. มีภาพโป๊เปลือย : อย่าถามผมว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาเห็นได้ยังไง หรือว่าเค้าจะเอาภาพไปทำอะไรหลังจากที่ facebbok เราโดนระงับ แต่ที่แน่ๆ ถ้าคุณมีภาพหรือวีดีโอที่เข้าข่ายนี้ บรรจุอยู่ใน facebook ของคุณล่ะก็ คุณมีสิทธิ์ถูกระงับบัญชีได้ทุกเมื่อ โดยที่จะไม่มีการแจ้งเตือนเลยแม้แต่นิดเดียว
2. ภาษาหยาบคาย ไม่เหมาะสม : ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้น ถ้ามีคนเข้ามาเห็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมของคุณ แล้วกดปุ่ม report แจ้งไปที่ facebook ว่าคุณมีการใช้งานในลักษณะนี้
3. โปรไฟล์เทียม : ถ้าคุณสร้างโปรไฟล์ขึ้นมาแฝงตัวเป็นบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนคุณเอง ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่บุคคลมีชื่อเสียง เมื่อมีคนรายงานไปทาง facebook คุณก็มีสิทธิ์ถูกระงับ account ได้เช่นกัน
4. ใช้ facebook พูดจาข่มขู่คนอื่น : ถึงจะเป็นแค่การพูดเล่นก็เถอะ หากมีการร้องเรียนไปยัง facebook บัญชีของคุณจะถูกระงับทันที
5. ใช้คำพูด หรือนำเสนอเนื้อหาที่แสดงความเกลียดชัง สร้างความแตกแยก : คนไทยอาจจะเห็นเรื่องนี้ค่อนข้างบ่อยจนชินตาไปแล้ว กับการใช้ facebook เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์ หรือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการเมือง แน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ แต่การใช้คำพูดที่รุนแรง ยุยง ปลุกปั่นนั้น จริงๆ แล้วที่ว่าเป็นการผิดนโยบายการใช้งานนะครับ facebook มีสิทธิ์ที่จะระงับ facebook ของคุณทันที หากมีคนร้องเรียนไปนะครับ เพราะฉะนั้นระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นของคุณให้ดีๆ
6. ใช้ profile ผิดวัตถุประสงค์ : ตามนโยบายของ facebook นั้น Profile จะอนุญาตให้ใช้สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ก็มีบ้างที่คนเอาหน้า profile ไปใช้งานเพื่อจุดประสงค์อื่นๆ เช่นใช้เพื่อขายของ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ซึ่งนับว่าเป็นการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ ถ้าถูกจับได้ก็อาจจะโดนระงับบัญชีได้ครับ
7. ปล่อยไวรัส : อันนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก หากถูกตรวจพบว่าคุณเป็นผู้ปล่อยไวรัส คุณมีสิทธิ์ถูกระงับ facebook ทันทีเช่นกัน
8. Add เพื่อนเยอะเกินไป : อันนี้เป็นเคสที่เจอบ่อยที่สุดครับ โดยเฉพาะคนที่ต้องการ add เพื่อนเยอะๆ ไว้เล่นเกมส์ จะโดนระบบตรวจจับว่ามีพฤติกรรมน่าสงสัย เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ add เพื่อนวันละไม่เกิน 20 คนครับ
9. ร่วม group หรือ page เยอะเกินไป : อาจจะไม่ค่อยพบกรณีนี้นัก แต่มีคำแนะนำว่า ไม่ควรจะเข้าร่วมกลุ่ม หรือ like page เกินวันละ 200 หน้า
10. โพสท์ข้อความ หรือ ส่งข้อความเยอะเกินไป : ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม การโพสท์ข้อความหรือลิงค์ซ้ำๆ กันไปบน wall ของเพื่อนหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์เพื่อการประชาสัมพันธ์อะไรบางอย่างจริงๆ หรือจะเป็นการโพสท์ที่เกิดจากไวรัสแบบที่คุณไม่รู้ตัวนั้น ล้วนเป็นจุดที่ เสี่ยงและอาจทำให้ account ของคุณโดนระงับได้แบบไม่รู้ตัวทั้งนั้นครับ
(ในกรณีที่คุณมีความจำเป็นจะต้องโพสท์ข้อความซ้ำๆ กันหลายครั้ง ขอแนะนำให้ดัดแปลงหรือปรับเปลี่ยนรูปประโยคในแต่ละข้อความซักเล็กน้อย ระบบตรวจสอบก็จะละเว้นและไม่นับว่าคุณส่งข้อความขยะ)
11. ผู้ใช้คนเดียวแต่มีโปรไฟล์หลายอัน : ถ้าคุณมีโปรไฟล์หลายอัน และทั้งหมดเป็นชื่อคนๆ เดียวกัน ข้อมูลเหมือนกัน account อันใดอันหนึ่งของคุณก็อาจจะถูกระงับได้เช่นกัน
ถ้าใช้งานอย่างถูกต้องตามข้อกำหนดของ facebook แค่นี้ ก็ไม่ต้องห่วงอีกแล้วครับว่าบัญชีของคุณจะถูกระงับ

อ้างอิง http://www.facebookgoo.com/2010/07/08/12-reason-to-suspend-your-account/

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 2

เฟซบุ๊ค
บทที่ 1 – ขั้นตอนการสมัครและเร่ิมต้นใช้งาน
By facebookgoo on May 01, 2010 with Comments 36
39Share
บทความในวันนี้จะเป็นเรื่องของมือใหม่จริงๆ คือคนที่ไม่เคยมีเฟซบุ๊ค และไม่เคยเล่นพวกเว็บ social network มาก่อนเลย สำหรับคนที่เคยเล่นเว็บอื่นมาไม่ว่าจะเป็น hi5 หรือ myspace สิ่งที่จะพูดในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องที่คุณคุ้นเคยดีอยู่แล้วก็ได้ แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่จริงๆ ละก็ ตามผมมาเลยครับ
ก่อนอื่นต้องทำความ เข้าใจกับคำว่า social network กันก่อนนะครับ จริงๆ เรื่องนี้ก็ยาวขนาดที่ว่ายกมาเขียนได้เป็นอีกหัวข้อนึงไปเลย แต่ถ้าพูดให้สั้นๆ ก็คือเป็นเว็บไซท์ที่คุณสามารถสร้างหน้าโปรไฟล์ หรือข้อมูลของคุณเอง และนำไปเชื่อมโยงกับหน้าโปรไฟล์ของคนอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถมีปฎิสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นได้ ส่วนจะทำอะไรได้บ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับบริการของเว็บแต่ละห้อง เช่นเข้าไปดูรูปของเพื่อน เขียนไดอารี่ให้คนอื่นเข้ามาอ่าน ส่งข้อความส่วนตัว เขียนข้อความลงบนพื้นที่ในหน้าของเพื่อน ฟังเพลง ส่งเพลงให้กัน ท้าดวลเกมส์ ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถส่งข้อความพูดคุยกับเพื่อนตัวต่อตัว หรือจะส่งข้อความหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ในครั้งเดียวก็ทำได้ทั้งนั้น โดยจุดเด่นของการสื่อสารผ่านเว็บพวก social network นี้คือเราไม่จำเป็นต้องมานั่งรอเพื่อนของเราออนไลน์พร้อมกันเพื่อจะพูดคุย เหมือนอย่างโปรแกรมพวก msn
อยากลองใช้ดูแล้วใช่มั้ย เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปที่ http://www.facebook.com/ ซึ่งเป็นเว็บหลักของเฟซบุ๊ค ถ้าคุณไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ให้ดูในด้านล่างซ้ายมือ (ตามรูป) จะมีปุ่มให้เปลี่ยนเป็นภาษาไทยอยู่ และในหน้าแรกนี้เองจะมีช่องให้คุณลงทะเบียนตามรูปข้างล่างนี้ก็ให้คุณกรอกข้อมูลของคุณลงไป ได้แก่ชื่อ (ขอแนะนำให้ใช้ชื่อนามสกุลจริงหรือชื่อเล่นที่คนรู้จักนะครับ เพราะจะมีผลในการที่เพื่อนจะหาคุณเจอได้) อีเมล์ที่ติดต่อได้ของคุณ และตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งาน ระบุเพศ สุดท้่ายก็ระบุวันเดือนปีเกิด เสร็จแล้วก็คลิกลงทะเบียนเลยครับ

อ้างอิง www.facebook.com/notes/news1today
http://www.mediafire.com/?rwv73s0cg0u5bz5
ส่งงานโปรเจ็ก สุภาภรณ์

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 1





Facebook is growing rapidly in countries like Japan, Korea, Russia, Brazil, India, Germany, Poland, and the Netherlands. And as more users adopt Facebook, your applications have the opportunity to gain exposure and reach in these markets. Here are a few suggestions to help you continue to grow your user base around the world.
First, we recommend localizing your applications for the countries mentioned above, where we are experiencing a particularly high rate of user growth. For your existing applications, localization can involve translating them to more languages to make them accessible to more users. Also, when you publish to a user’s stream, try customizing the post to the user’s language and country to optimize for each user group. For example, publishing special updates on country holidays, as well as country-specific graphics/gifts can help target user segments. Another suggestion is to think about localization when developing new applications. Consider how you might design a unique application built for the lifestyles and cultural norms of the countries you are targeting.

มาตรฐานบล็อกนักศึกษา

มาตรฐานบล็อกนักศึกษา

ให้นักศึกษาสร้างบล็อก ตามมาตรฐานดังนี้นะคะ
1. ตั้งชื่อบล็อกโดยขึ้นต้นด้วย il- แล้วตามด้วยชื่อที่ต้องการ
2. ใส่ชื่อโปรเจ็กไว้ใน Blog Description
3. ใส่รูปภาพใน Profile เพืื่อง่ายต่อการจดจำ
4. ใส่ชื่อสมาชิก พร้อมสาขาวิชาและชั้นปีไว้ที่ Sidebar (เป็นรายการแรก)ุ
5. แจ้ง URL Blog นักศึกษา ที่ tweetboard นะคะ(จำแนกตามวันที่เรียน)
6. ไม่เผยแพร่ถ้อยคำและภาพที่ไม่เหมาะสม

ส่งงานโปรเจ็ก

http://www.mediafire.com/?2jmgqjny45m